ผู้เชี่ยวชาญกำจัดสัตว์รบกวน
หากคุณพบปัญหาสัตว์รบกวนระบาดในพื้นที่ อย่าลังเลที่จะติดต่อเร็นโทคิล เราพร้อมบริการและปกป้องคุณจากอันตรายของสัตว์ที่ไม่ได้รับเชิญ
"แมลงสาบ" แค่เอ่ยชื่อก็ขนลุกแล้วใช่ไหมล่ะ เจ้าแมลงตัวร้ายนี้เป็นปัญหาหนักใจของใครหลายคน ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในบ้านคอนโดหรือแม้แต่ร้านอาหารก็ล้วนแต่ต้องเผชิญหน้ากับแมลงน่ารังเกียจนี้ พวกมันไม่เพียงแต่สร้างความรำคาญ วิ่งพล่านให้หวาดผวา แต่ยังเป็นพาหะนำโรค เสี่ยงต่อสุขภาพของคนในบ้านอีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะบทความนี้ได้รวบรวมสารพัดวิธี DIY ไล่แมลงสาบแบบง่าย ๆ ปลอดภัย ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาช่วยให้คุณกำจัดแมลงสาบกวนใจ คืนความสงบสุขให้กับบ้านของคุณ
แมลงสาบ สัตว์รบกวนตัวฉกาจที่สร้างความรำคาญใจให้ใครหลายคน นอกจากจะวิ่งพล่านและบินแบบไร้ทิศทาง สร้างความสยองขวัญแล้ว ยังเป็นพาหะนำโรคอีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลใจไปครับ วันนี้เรามีสารพัดวิธี DIY ไล่แมลงสาบแบบง่าย ๆ ปลอดภัย และประหยัด มาฝากกัน รับรองว่าแมลงสาบต้องเผ่นแน่บ บ้านสะอาดปลอดภัยแน่นอน
สบู่ เป็นวัตถุดิบใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม แต่จริง ๆ แล้วสามารถนำมาไล่แมลงสาบได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยนะ และหลักการทำงานของสบู่ในการไล่แมลงสาบคือ สบู่มีคุณสมบัติเป็นด่าง ซึ่งจะไปทำลายชั้นไขมันที่เคลือบตัวแมลงสาบ ทำให้แมลงสาบสูญเสียน้ำและตายในที่สุด นอกจากนี้ กลิ่นของสบู่บางชนิดยังรบกวนแมลงสาบ ทำให้ไม่อยากเข้าใกล้
วิธีใช้สบู่ไล่แมลงสาบให้ใช้สบู่เหลวผสมน้ำ โดยการนำสบู่เหลวชนิดใดก็ได้ ผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 คนให้เข้ากัน ใส่ขวดสเปรย์ แล้วนำไปฉีดพ่นตามจุดที่แมลงสาบชอบอยู่ เช่น ตามซอกมุม ขอบประตู หน้าต่าง ท่อระบายน้ำ หรือจะนำสบู่ก้อนมาขูดเป็นฝอย หรือหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปวางไว้ตามจุดที่แมลงสาบชอบผ่าน เช่น ใต้ตู้ หลังตู้เย็น ในห้องครัวก็ย่อมได้เช่นกัน
ทั้งนี้ควรเลือกสบู่ที่มีกลิ่นแรง เช่น สบู่กลิ่นมะนาว สบู่กลิ่นตะไคร้หอม เพราะกลิ่นเหล่านี้จะช่วยไล่แมลงสาบได้ดีขึ้น และควรทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ เพื่อกำจัดเศษอาหาร และแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดแมลงสาบ รวมไปถึงทำการอุดรอยรั่ว รอยแตก ตามผนัง พื้น และท่อต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงสาบเข้ามาในบ้าน
ลูกเหม็น ถือเป็นวิธีไล่แมลงสาบแบบ DIY ยอดนิยมตลอดกาล เพราะหาซื้อง่าย ราคาถูก และใช้งานสะดวก แม้ว่าจะไม่ใช่วิธีที่ "เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" ที่สุด แต่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อใช้ควบคู่กับวิธีอื่น ๆ ซึ่งลูกเหม็นมีสารเคมีหลัก ๆ คือ แนฟทาลีน (Naphthalene) หรือ พาราไดคลอโรเบนซีน (Para-dichlorobenzene) โดยมีกลิ่นฉุนที่แมลงสาบไม่ชอบ สารเคมีเหล่านี้จะระเหิดกลายเป็นไอ กระจายไปทั่วบริเวณ รบกวนระบบประสาทรับกลิ่นของแมลงสาบ ทำให้แมลงสาบรู้สึกไม่ชอบ และหนีไปในที่สุด
วิธีการใช้ อันดับแรกก็ให้วางลูกเหม็นตามจุดที่แมลงสาบชอบปรากฏตัว เช่น ใต้ซิงค์ หลังตู้เย็น ในตู้เสื้อผ้า ตามซอกมุมต่างๆ ใส่ลูกเหม็นในถุงผ้าโปร่ง แล้วนำไปแขวนหรือวางไว้ตามจุดต่างๆ ของบ้าน สุดท้ายแล้วให้บดลูกเหม็นเป็นผง แล้วโรยตามทางเดินของแมลงสาบ หรือตามรอยแตก รอยแยกของบ้าน
ทั้งนี้ ลูกเหม็นมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก และสัตว์เลี้ยง ระวังอย่าสูดดมไอระเหยของลูกเหม็น อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ไม่ควรวางลูกเหม็นไว้ใกล้กับอาหาร หรือบริเวณที่ประกอบอาหาร ที่สำคัญลูกเหม็นมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ และทิ้งอย่างถูกวิธี
สุดท้ายแล้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ควรใช้ลูกเหม็นควบคู่กับวิธีอื่น ๆ เช่น การทำความสะอาดบ้าน การอุดรอยรั่ว การใช้สมุนไพรไล่แมลงสาบ และหมั่นเปลี่ยนลูกเหม็นบ่อยๆ เพราะเมื่อลูกเหม็นระเหยหมด ก็จะไม่มีประสิทธิภาพในการไล่แมลงสาบ
แม้ว่าเราจะชอบกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟ แต่แมลงสาบกลับไม่ชอบเอาเสียเลย ฉะนั้นกากกาแฟจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในการไล่แมลงสาบแบบ DIY เพราะหาได้ง่าย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับวิธีใช้กากกาแฟไล่แมลงสาบ อันดับแรกให้นำกากกาแฟที่แห้งแล้วไปโรยตามจุดที่แมลงสาบชอบผ่าน เช่น ตามซอกมุมห้อง ใต้ตู้ ใต้ซิงค์ หรือบริเวณที่เก็บขยะ กลิ่นของกากกาแฟจะรบกวนแมลงสาบ ทำให้ไม่อยากเข้าใกล้
หรือจะนำกากกาแฟใส่ภาชนะ เช่น ขวดโหล แก้วน้ำ หรือถ้วยเล็ก ๆ วางภาชนะที่มีกากกาแฟไว้ในบริเวณที่แมลงสาบชอบปรากฏตัว แมลงสาบจะเข้าไปในภาชนะเพราะกลิ่นกาแฟ แต่จะออกไม่ได้เพราะปีนภาชนะลื่น ๆ ไม่ได้ หรือจะเป็นการนำกากกาแฟไปแช่น้ำ 1 คืน แล้วนำน้ำกาแฟไปฉีดพ่นตามจุดที่แมลงสาบชอบอยู่ หรือตามทางเดินของแมลงสาบ
นอกจากนี้ ควรเปลี่ยนกากกาแฟบ่อย ๆ เพื่อประสิทธิภาพที่ดี และระวังเรื่องความชื้น กากกาแฟที่ชื้นเกินไปอาจทำให้เกิดเชื้อราได้ เพิ่มเติมหากเป็นไปได้ให้ผสมกากกาแฟกับเปลือกส้มหรือมะนาว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการไล่แมลงสาบ เพราะนอกจากไล่แมลงสาบแล้ว กากกาแฟยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกมากมาย เช่น ไล่มด ดับกลิ่น ทำปุ๋ย
ดินเบา หรือไดอะตอมมาเชียสเอิร์ธ (Diatomaceous Earth) เป็นผงละเอียดสีขาวที่ได้จากซากฟอสซิลของไดอะตอม ซึ่งเป็นสาหร่ายเซลล์เดียวขนาดเล็ก แม้จะดูไม่มีพิษมีภัย แต่ดินเบากลายเป็นอาวุธลับในการกำจัดแมลงสาบแบบ DIY ได้อย่างน่าทึ่งเลยล่ะ
เนื่องจากดินเบาประกอบด้วยโครงสร้างซิลิกาที่มีลักษณะเป็นรูพรุนเล็ก ๆ เมื่อแมลงสาบสัมผัสโดน ผงดินเบาจะดูดซับไขมันที่เคลือบอยู่บนตัวแมลงสาบ ทำให้สูญเสียน้ำ และตายในที่สุด และขอบของผงดินเบามีความคม สามารถบาดผิวหนัง และโครงสร้างภายนอกของแมลงสาบ ทำให้เกิดบาดแผล สูญเสียน้ำ และตายในที่สุดได้
ส่วนวิธีใช้ดินเบาไล่แมลงสาบ ให้โรยผงดินเบาบาง ๆ ตามจุดที่แมลงสาบชอบผ่าน เช่น ตามซอกมุม ขอบหน้าต่าง ใต้ตู้ หลังตู้เย็น บริเวณท่อน้ำทิ้ง จากนั้นให้ผสมดินเบากับน้ำ แล้วใส่ขวดสเปรย์ ฉีดพ่นตามจุดที่แมลงสาบชอบอาศัย หรือบริเวณที่พบเห็นตัวแมลงสาบ และผสมดินเบากับอาหารที่แมลงสาบชอบ เช่น น้ำตาล แป้ง แล้ววางไว้ตามจุดที่แมลงสาบชอบผ่าน
ทั้งนี้ ควรสวมหน้ากากอนามัย ขณะโรย หรือฉีดพ่นดินเบา และไม่ควรให้ดินเบาเปียกชื้น เพราะดินเบาจะสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อเปียกชื้น ควรเก็บไว้ในที่แห้ง สุดท้ายแล้วการใช้ดินเบาไล่แมลงสาบ อาจต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลลัพธ์ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการไล่แมลงสาบแบบ DIY ที่ปลอดภัย ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลองนำไปใช้ดูได้เลย
เบกกิ้งโซดา ถือเป็นของคู่ครัวสารพัดประโยชน์จริง ๆ แม้แต่เรื่องไล่แมลงสาบก็เอาอยู่ ที่เป็นแบบนี้เพราะเบกกิ้งโซดา มีคุณสมบัติเป็นด่าง เมื่อแมลงสาบกินเข้าไป มันจะทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพาะของแมลงสาบ เกิดเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้แมลงสาบตายในที่สุด
วิธีใช้เบกกิ้งโซดาไล่แมลงสาบก็ง่ายแสนง่าย ลองทำตามนี้ดูได้เลย
1.เบกกิ้งโซดาเพียวๆ
โรยผงเบกกิ้งโซดาไว้ตามจุดที่แมลงสาบชอบเดินผ่าน เช่น ตามซอกมุม ขอบหน้าต่าง ใต้ตู้ หลังตู้เย็น ข้อดีคือใช้ง่าย ประหยัด ส่วนข้อเสียคืออาจจะไม่ค่อยได้ผล เพราะแมลงสาบอาจจะไม่กิน
2. เบกกิ้งโซดาผสมน้ำตาล
ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำตาลทรายในอัตราส่วน 1:1 โรยไว้ตามจุดที่แมลงสาบชอบเดินผ่าน เช่นเดียวกับวิธีแรก น้ำตาลจะช่วยล่อให้แมลงสาบมากิน ข้อดีคือได้ผลดีกว่าการใช้เบกกิ้งโซดาเพียว ๆ แต่ต้องระวัง อย่าให้เด็กหรือสัตว์เลี้ยงเผลอกิน
3.เบกกิ้งโซดาผสมแป้ง
ผสมเบกกิ้งโซดากับแป้ง เช่น แป้งข้าวโพด แป้งมัน ในอัตราส่วน 1:1 และโรยไว้ตามจุดที่แมลงสาบชอบเดินผ่าน ตัวแป้งจะช่วยให้เบกกิ้งโซดาเกาะติดตัวแมลงสาบได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ควรวางเบกกิ้งโซดาไว้ในที่ที่เด็กและสัตว์เลี้ยงเข้าถึงไม่ได้ และหากมีแมลงสาบตาย ควรเก็บกวาดทำความสะอาดให้เรียบร้อย ที่สำคัญเบกกิ้งโซดาอาจทำให้เกิดคราบขาว ควรระวังอย่าให้โดนพื้นผิวที่ทำความสะอาดยาก
Tips เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ควรทำความสะอาดบ้าน กำจัดแหล่งอาหาร และแหล่งน้ำของแมลงสาบ ควบคู่ไปกับการใช้เบกกิ้งโซดา และหมั่นสังเกตว่าแมลงสาบลดลงหรือไม่ หากยังมีแมลงสาบอยู่ อาจต้องลองใช้วิธีอื่นร่วมด้วย
น้ำยาปรับผ้านุ่มก็เป็นอีกหนึ่งไอเท็มใกล้ตัวที่สามารถนำมาไล่แมลงสาบได้อย่างน่าประหลาดใจ หลายคนอาจจะสงสัยว่า น้ำยาปรับผ้านุ่มที่ให้กลิ่นหอม ๆ แบบนี้จะไล่แมลงสาบได้จริงหรือ คำตอบ คือ จริง เพราะแมลงสาบเป็นแมลงที่ไวต่อกลิ่นมาก ๆ โดยเฉพาะกลิ่นแรง ๆ ซึ่งกลิ่นของน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้น แมลงสาบจะไม่ชอบเอามาก ๆ
ทำได้โดยการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม 1 ฝา ผสมกับน้ำเปล่าประมาณครึ่งลิตร หรือ 1 ลิตร คนให้เข้ากัน นำส่วนผสมที่ได้ใส่ขวดสเปรย์ ฉีดพ่นบริเวณที่แมลงสาบชอบผ่าน เช่น ตามซอกมุม ขอบประตู หน้าต่าง ตู้กับข้าว หรือจะนำผ้าชุบน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ผสมแล้ว มาเช็ดตามพื้น ผนัง ก็ได้เช่นกัน ส่วนใครถนัดหยดน้ำยาปรับผ้านุ่มลงบนสำลี แล้วนำไปวางตามจุดที่แมลงสาบชอบอยู่ เช่น ใต้ซิงค์ หลังตู้เย็น ในตู้เสื้อผ้า ก็ได้ผลไม่ต่างกันร
เราแนะนำเพิ่มเติมว่าควรเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมแรง และควรเปลี่ยนสำลีหรือฉีดพ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มซ้ำ ทุก 2-3 วัน เพื่อคงประสิทธิภาพในการไล่แมลงสาบ วิธีนี้อาจไม่ได้ผลกับแมลงสาบทุกตัว และไม่ได้กำจัดแมลงสาบให้ตาย แต่จะช่วยไล่แมลงสาบให้หนีไป และนอกจากน้ำยาปรับผ้านุ่ม ยังมีของใช้ในบ้านอื่น ๆ ที่สามารถนำมาไล่แมลงสาบได้ เช่น เปลือกส้ม มะนาว ใบกระวาน ตะไคร้หอม น้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา ฯลฯ
มาถึงไอเท็มสุดท้ายก็คือ ‘น้ำมันสะเดา’ นั่นเอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับไล่แมลงสาบแบบ DIY เพราะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ปลอดภัยต่อคนและสัตว์เลี้ยง แถมยังหาซื้อง่าย ราคาไม่แพงอีกด้วย
น้ำมันสะเดามีกลิ่นแรงเฉพาะตัวที่แมลงสาบไม่ชอบ กลิ่นนี้จะรบกวนระบบประสาท ทำให้แมลงสาบสับสน และไม่อยากเข้าใกล้ และหากแมลงสาบเผลอกินน้ำมันสะเดาเข้าไป รสขมจะทำให้แมลงสาบไม่อยากกินอาหาร และอาจตายได้ในที่สุด ทั้งนี้น้ำมันสะเดามีสาร Azadirachtin ที่รบกวนการลอกคราบ และการเจริญเติบโตของแมลงสาบ
ส่วนวิธีทำ ลำดับแรกให้ใช้น้ำมันสะเดาประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่า 1 ลิตร คนให้เข้ากัน จากนั้นให้เติมน้ำยาล้างจาน เพื่อช่วยให้น้ำมันสะเดาละลายน้ำได้ดีขึ้น เทส่วนผสมลงในขวดสเปรย์ สุดท้ายก็ฉีดพ่นตามจุดที่แมลงสาบชอบอยู่ เช่น ตามซอกมุม ใต้ตู้ หลังตู้เย็น ในห้องครัว ห้องน้ำ และควรฉีดพ่นสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือบ่อยกว่านั้น หากมีแมลงสาบจำนวนมาก
เรื่องที่น่ารู้ก็คือ แม้ว่าน้ำมันสะเดาจะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ แต่บางคนอาจแพ้ได้ ควรทดสอบการแพ้ก่อนใช้ โดยทา น้ำมันสะเดา ปริมาณเล็กน้อยที่ท้องแขน แล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากไม่มีอาการแพ้ เช่น ผื่นแดง คัน ก็สามารถใช้ได้ควรเก็บน้ำมันสะเดาให้พ้นมือเด็ก และสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงไม่ควรฉีดพ่นน้ำมันสะเดา ใส่ต้นไม้ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อพืชได้
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับสารพัดวิธี DIY ไล่แมลงสาบแบบง่าย ๆ ที่นำมาฝากกัน หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ ช่วยให้คุณบอกลาเจ้าแมลงตัวร้าย คืนความสงบสุขให้กับบ้านได้ อย่าลืมว่า "กันไว้ดีกว่าแก้" หมั่นทำความสะอาดบ้าน กำจัดแหล่งอาหาร และอุดรอยรั่วต่าง ๆ เพื่อป้องกันแมลงสาบ
แต่หากแมลงสาบยังคงสร้างปัญหา จนคุณรู้สึกเหนื่อยใจ หมดแรง และไม่มีเวลาจัดการ ถึงเวลาแล้วที่ต้องเรียกมืออาชีพ Rentokil ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดแมลง พร้อมบริการคุณด้วยทีมงานมืออาชีพ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดภัย ไร้กังวล ให้ Rentokil ช่วยคุณจัดการปัญหาแมลงสาบ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในครอบครัว
หมดปัญหาแมลงสาบกวนใจ เลือก Rentokil ติดต่อเราได้เลย