02 290 8500 สำรวจพื้นที่ฟรีที่เบอร์ หรือ ติดต่อเรา

ลูกค้าบ้านและธุรกิจในไทยไว้วางใจให้ดูแลกว่า 100,000++ ราย

เจ้าหน้าที่จะตอบกลับคุณภายใน 2 ชั่วโมง (จันทร์-ศุกร์)

นักกีฏวิทยาที่เชี่ยวชาญ และพนักงานบริการที่ผ่านการอบรม พร้อมดูแลปัญหาสัตว์รบกวน

สายพันธุ์และชนิดของมด

มด มีกี่ชนิด? เคยสังเกตไหมว่ามดที่เราเห็นเป็น มดคันไฟ มดละเอียด มดเหม็น มดน้ำตาล? สายพันธุ์มดหรือชนิดของมดบนโลกนี้พบว่ามีประมาณ 12,000 ชนิด ซึ่งชนิดของมดที่พบมากที่สุดก็จะเป็นชนิดที่มีสีดำ สีน้ำตาล สีแดง

มด เป็นแมลงในวงศ์ Formicidae จัดอยู่ในอันดับ Hymenoptera เป็นหนึ่งในแมลงสังคม (Eusocial insect) ที่ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการพึ่งพาอาศัยกันเป็นกลุ่ม (Colony) จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะพบว่ามีการระบาดของมดมากกว่าหนึ่งตัวทุกครั้งไป

ไม่ว่าจะเป็นมดสีดำ มดละเอียด มดน้ำตาล หรือมดคันไฟ ในแต่ละอาณาจักรของมดจะมีการแบ่งชนชั้นวรรณะ ซึ่งประกอบไปด้วย มดราชินี มดเพศผู้ มดงานหรือมดกรรมกร และมดทหาร หากบ้านของคุณพบการระบาดของมด สามารถขอคำแนะนำเกี่ยวกับบริการกำจัดมด เพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญเร็นโทคิล โทรหาเราได้ที่เบอร์ 02 290 8500 หรือกรอกฟอร์มด้านล่างนี้

ติดต่อเรา

* จำเป็นต้องกรอก

Download this report

ชนิดของมดที่พบมากในประเทศไทย

มดบางสายพันธุ์อยู่ในอาณาจักรที่มีราชินีตัวเดียว ในขณะที่อีกหลายสายพันธุ์มีมดราชินีหลายตัว ถึงแม้จะมีมดประมาณ 16 สายพันธุ์ที่รู้จักกันดี แต่เรามักพบสายพันธุ์มดเพียงไม่กี่สายพันธุ์ในประเทศไทย ดังนี้

Black House Ant

มดดำ (Black House Ant)

แม้ว่ามดดำจะไม่มีพฤติกรรมที่ชอบกัดมนุษย์ แต่ก็เป็นมดชนิดหนึ่งที่ก่อให้เกิดความรำคาญ และสามารถเป็นพาหะของเชื้อโรคได้

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Ochetellus spp.

ลักษณะทางกายภาพ

  • ตัวภายนอกมีสีดำเงา
  • ความยาวของลำตัวอยู่ที่ประมาณ 2.5-3 มม.

วงจรชีวิต

  • ตัวอ่อนของมดดำเมื่อฟักออกจากไข่จะมีลักษณะเหมือนหนอนสีขาว ส่วนหัวเรียวเล็ก ไม่มีขา และจะถูกเลี้ยงโดยมดงานตัวเต็มวัย
  • จากนั้นตัวอ่อนจะกลายเป็นดักแด้สีขาวขุ่น บางครั้งอาจมีเปลือกเหมือนรังไหมห่อหุ้มอยู่ ระยะนี้ไม่กินอาหาร 
  • ระยะเวลาตั้งแต่ไข่จนเป็นตัวเต็มวัยใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ขึ้นไป โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สายพันธุ์ของมดดำ อุณหภูมิ ความชื้น และความอุดมสมบูรณ์ของอาหาร
  • ไข่ที่ได้รับการผสมพันธุ์จะกลายเป็นมดเพศเมีย ส่วนไข่ที่ไม่ได้รับการผสมพันธุ์จะกลายเป็นมดเพศผู้
  • ร่างกายของมดดำตัวเต็มวัยจะแบ่งออกเป็นสามส่วนชัดเจน ได้แก่ ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง

เกี่ยวกับมดดำ

  • พฤติกรรม: มดดำถือเป็นตัวสร้างความรำคาญ มีพฤติกรรมการไต่หรือตอมอาหารในครัว กองขยะ มูลสุขนัข ซึ่งอาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรค เช่น เชื้อซาลโมเนลลา

  • ที่อยู่อาศัย: มดดำมักทำรังใต้ก้อนหินใต้ดิน ใต้หลังคา เสารั้วที่ผุพัง และกระถางต้นไม้ เป็นต้น

  • แหล่งอาหาร: พวกมันต้องการอาหารที่มีรสหวานและน้ำหวานจากการขับถ่ายของเพลี้ยอ่อน (aphid)

  • ผลกระทบและอันตราย: ด้วยพฤติกรรมของมดดำมักจะคุ้ยหาอาหารตามสถานที่ที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น เชื้อซาลโมเนลลาสู่มนุษย์ได้ในทางอ้อม

Fire Ant

มดคันไฟ (Fire Ant)

มดคันไฟเป็นมดอีกชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อย หลายๆ คนเคยโดนกัดและเกิดรอยบนตัว บางคนอาจมีอาการแพ้จากการถูกมดคันไฟกัด

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Solenopsis spp.

ลักษณะทางกายภาพ

  • มดคันไฟวรรณะราชินีมีขนาดยาว 6 มม.
  • ส่วนมดงานมีขนาดยาว 3-6 มม.
  • ส่วนหัวและตัวมีสีน้ำตาลแกมทองแดง และส่วนท้องจะสีเข้มกว่าส่วนอื่น
  • ลักษณะเด่น คือ มดราชินีจะมีหนวดแยกเป็นสองส่วน

วงจรชีวิตมดคันไฟ

  • มดววรณสืบพันธุ์หลังจากบินออกจากรังและได้รับการผสมพันธุ์แล้ว จะสลัดปีก และกลายมาเป็นมดราชินี ซึ่งจะหาบริเวณที่เหมาะสมในการวางไข่ มดราชินีจะวางไข่ได้ถึง 125 ฟอง ในช่วงแรก
  • ไข่ของมดคันไฟจะฟักเป็นตัวอ่อนภายใน 8-10 วัน และอยู่ในระยะดักแด้ประมาณ 9-16 วัน
  • มดราชินีจะให้ตัวอ่อนรุ่นแรกกินของเหลวจากต่อมน้ำลายและกล้ามเนื้อปีกที่หลุดออก จนกว่าตัวอ่อนจะกลายเป็นมดงาน หลังจากตัวอ่อนลอกคราบออกมาเป็นมดงานแล้ว มดราชินีก็จะกลับไปทำหน้าที่วางไข่อีกครั้ง โดยสามารถวางไข่ได้มากถึง 1,500 ฟองต่อวัน โดยมดงานจะทำหน้าที่ดูแลตัวอ่อน สร้างรัง และหาอาหาร
  • มดคันไฟเพศผู้จะถูกผลิตในฤดูกาลต่อมา เพื่อทำหน้าที่ผสมพันธุ์

เกี่ยวกับมดคันไฟ

  • พฤติกรรม: การกินอาหารมดงานประกอบด้วย ซากสัตว์ที่ตายแล้ว เช่น ซากแมลง ไส้เดือน และสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง มดงานยังทำหน้าที่เก็บน้ำหวานจากดอกไม้ อาหารรสหวาน โปรตีน และไขมันอีกด้วย

  • ที่อยู่อาศัย: รังมดอาจเป็นเนินดินสูงไม่เกิน 40 ซม. หรือตั้งอยู่ติดกับวัตถุบนดิน เช่น ท่อนไม้

  • แหล่งอาหาร: อาหารของมดงานประกอบด้วย ซากสัตว์ที่ตายแล้ว เช่น ซากแมลง ไส้เดือน และสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง มดงานยังทำหน้าที่เก็บน้ำหวานจากดอกไม้ อาหารรสหวาน โปรตีน และไขมันอีกด้วย

  • ผลกระทบและอันตราย: นอกจากจะเป็นแมลงรบกวนในบ้านเรือน มดคันไฟยังสร้างความเสียหายให้กับพืชทางการเกษตรโดยกัดกินทำลายยอดอ่อนหรือส่วนต่างๆของพืชผลทางการเกษตรบางชนิด นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องการกัดต่อยที่ที่โหดร้าย สร้างความเจ็บปวดจนเกิดตุ่มหนองภายใน 48 ชั่วโมง มันยังสามารถนำเชื้อก่อโรคอย่าง Bacillus spp., E.coli, Samonella spp., Listeria spp. และเชื้อรา ซึ่งก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารในมนุษย์ได้

Ghost Ant

มดน้ำตาล (Ghost Ant)

มดน้ำตาลเป็นมดที่ไม่มีเหล็กใน และไม่มีพิษ เมื่อถูกรบกวนจะมีพฤติกรรมกัดแต่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างมดคันไฟ และเป็นมดอีกชนิดที่สร้างความรำคาญในบ้านเรือน

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Tapinoma melanocephalum

ลักษณะทางกายภาพ

  • ส่วนท้องและขาของมดน้ำตาลมีสีอ่อน/โปร่งแสง
  • ขนาดตัวจะยาวประมาณ 16 มม.

วงจรชีวิตมดน้ำตาล

  • วงจรชีวิตของมดน้ำตาล ประกอบด้วย ตั้งแต่ระยะ ไข่ ตัวอ่อน ดักแด้ จนถึงตัวเต็มวัย

เกี่ยวกับมดน้ำตาล

  • พฤติกรรม: มดน้ำตาลมีการขยายพันธุ์อย่างต่อเนื่องภายในอาณาจักร

  • ที่อยู่อาศัย: มดน้ำตาลชอบอาศัยอยู่ในพื้นที่ขนาดเล็ก ช่องว่างบนผนัง ในกระถางดอกไม้ ใต้วัตถุบนพื้นดิน ช่องใต้เปลือกไม้ ภายในครัวหรือในห้องน้ำ เนื่องจากพวกมันชอบพื้นที่ที่มีความชื้นสูง

  • แหล่งอาหาร: อาหารที่มดน้ำตาลโปรดปราน คือ ไขมันจากซากสัตว์ที่ตาย และของเหลวรสหวานที่ผลิตจากแมลงผลิตน้ำหวาน

  • ผลกระทบและอันตราย: มดน้ำตาลมักสร้างความรำคาญในบ้านเรือนและชุมชน นอกจากนี้พวกมันสามารถนำพาเชื้อแบคทีเรียมาสู่มนุษย์ได้ เช่น Enterobacter cloacae และ Staphylococcus sp. ในเชิงการเกษตรพวกมันถือเป็นศัตรูพืชชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีส่วนช่วยแมลงศัตรูพืช (เพลี้ยแป้ง) ในการเข้าทำลายพืช

Odorous house ant

มดเหม็น (Odorous House Ant)

มดเหม็นสามารถพบได้ในทุกๆ ครัวเรือน สามารถดำรงชีวิตด้วยการกินอาหารได้เกือบทุกชนิด และหากขยี้หรือรบกวนมดเหม็นจะปล่อยมีกลิ่นเหม็นฉุนออกมา เพื่อเป็นการป้องกันตัว

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Tapinoma sessile

ลักษณะทางกายภาพ

  • มดเหม็นจะมีสีน้ำตาล หรือ ดำ
  • ขนาดตัวยาว 1.5-3 มม.
  • มีหนวดที่มี 12 ปล้องและปลายหนวด ไม่ได้ขยายขนาด เรียบเสมอกัน
  • มี 6 ขา อยู่บริเวณปล้องอก

วงจรชีวิตมดเหม็น

  • มดเหม็นใช้เวลา 34-38 วัน ในการเติบโตเป็นตัวเต็มวัย
  • โดยปกติพวกมันมีอายุอยู่ได้หลายปี

เกี่ยวกับมดเหม็น

  • ที่อยู่อาศัย: มดเหม็นชอบความชื้น ซึ่งอาจพบรังของพวกมันบริเวณต้นไม้ ภายในบ้านหรือแม้กระทั่งฝาชักโครก ใน 1 อาณาจักรอาจมีมดจำนวนตั้งแต่ 100 - 10,000 ตัว

  • แหล่งอาหาร: มดเหม็นกินอาหารในครัวเรือนเกือบทุกชนิด โดยเฉพาะอาหารที่มีรสหวาน เช่น ของหวาน และผลไม้จำพวกเมล่อน และยังกินอาหารสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

  • ผลกระทบและอันตราย: เมื่อถูกมดเหม็นกัดจะทำให้เกิดอาการคันเจ็บและคันเพียงเล็กน้อย ขณะเดินหาอาหารพวกมันจะขับของเสียที่มีกลิ่นเหม็น และทำให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคสู่มนุษย์ได้

Pharaoh’s Ant

มดละเอียด (Pharaoh's Ant)

มดละเอียดเป็นชนิดของมดที่มีเหล็กใน เมื่อโดนกัดจะมีอาการคัน ระคายเคืองเล็กน้อย มดละเอียดเป็นอีกหนึ่งแมลงรบกวนที่พบมากในอาคาร

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Monomorium pharaonis

ลักษณะทางกายภาพ

  • มดงานมีขนาดยาว 1.5 - 2 มม. มีสีน้ำตาลแกมเหลือง และส่วนท้องสีน้ำตาล
  • มดละเอียดตัวผู้ยาว 3 มม. มีสีดำ และมีปีก
  • มดราชินียาว 3.5 - 6 มม. มีสีแดงเข้มและมีปีก
  • ตาของมดละเอียดจะมีสีดำ และปลายหนวดแบ่งเป็น 2 ส่วน

วงจรชีวิตมดละเอียด

  • ภายในรังมดละเอียดจะมีมดราชินีหลายตัวในหนึ่งอาณาจักร
  • พวกมันสามารถอพยพเพื่อสร้างอาณาจักรใหม่เกิดขึ้นช่วงใดก็ได้ของปี
  • มดละเอียดตัวเต็มวัยที่มีปีกแทบจะไม่บิน จึงพบเห็นพวกมันบินได้ยากมาก และปีกจะหลุดออกหลังจากผสมพันธุ์

เกี่ยวกับมดละเอียด

  • ที่อยู่อาศัย: รังมดละเอียดจะตั้งอยู่บริเวณโพรงในอาคารที่มีความร้อน มักพบในโรงพยาบาล ในอาณาจักรมีจำนวนมดตั้งแต่ไม่กี่ร้อยตัวไปจนถึง 300,000 ตัว พวกมันสร้างช่องทางเดินไว้เป็นอย่างดี ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบความร้อน มักสร้างอาณาจักรใหม่ขึ้นเมื่อรังถูกรบกวน เช่น ถูกรบกวนจากการกำจัดด้วยยาฆ่าแมลง

  • แหล่งอาหาร: มดละเอียดกินอาหารในครัวที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไขมัน เลือด และแมลงที่ตายแล้ว ฯลฯ

  • ผลกระทบและอันตราย: มดชนิดนี้มีเหล็กใน แต่ไม่ปรากฏให้เห็น เมื่อถูกคุกคามพวกมันจะกัดผู้บุกรุกก่อให้เกิดอาการคันและเจ็บเพียงเล็กน้อย

Carpenter Ant

มดช่างไม้ (Carpenter Ant)

เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับมดช่างไม้มากนัก มดชนิดนี้จะแทะกัดไม้แต่จะไม่กิน ซึ่งแตกต่างจากปลวกที่กินไม้ พวกมันเป็นชนิดของมดที่กำจัดได้ยากพอสมควร มดราชินีสามารถมีอายุได้ถึง 25 ปี

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Camponotus pennsylvanicus

ลักษณะทางกายภาพ

  • มดงานขนาดยาว 1/4 นิ้ว
  • มดราชินีขนาดยาว 1/2 นิ้ว
  • มดช่างไม้ส่วนมากมีสีดำ แต่ก็มีที่เป็นสีแดงดำเช่นกัน และมี 6 ขา

วงจรชีวิตมดช่างไม้

  • มดช่างไม้ใช้เวลา 3 - 6 ปี ในการสร้างอาณาจักรขนาดใหญ่และมั่นคง
  • ตั้งแต่เป็นไข่ถึงโตเต็มวัยใช้เวลาประมาณ 6 - 12 สัปดาห์

เกี่ยวกับมดช่างไม้

  • ที่อยู่อาศัย: สามารถพบมดช่างไม้ทั้งในไม้ชื้นและไม้แห้ง แต่จะชอบความชื้นมากกว่า พวกมันไม่ได้เจาะโพรงไม้เพื่อกิน แต่เพื่อสร้างรังและทางเดินหาแหล่งอาหาร สัญญาณบ่งชี้ ได้แก่ ขี้เลื่อย ไม้เปียก หรือเสียงแปลกๆ ที่ดังมาจากผนัง

  • แหล่งอาหาร: มดช่างไม้มักกินน้ำหวานจากดอกไม้ สารคัดหลั่งจากพืช น้ำผลไม้ และซากแมลง แต่พวกมันไม่กินไม้ กรณีที่อยู่ในบ้าน พวกมันชอบวัตถุที่มีความหวาน ไขมัน และเนื้อสัตว์ พวกมันออกหาอาหารในตอนกลางคืนเป็นหลัก แต่ช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนก็ออกหาอาหารในตอนกลางวันเช่นกัน

  • ผลกระทบและอันตราย: มดช่างไม้จะไม่ค่อยออกมาสัมผัสกับผู้คน ถ้าพบมนุษย์จะพยายามหนี จึงไม่ค่อยพบมดชนิดนี้กัดหรือต่อยมนุษย์ แต่พวกมันอาจก่อให้เกิดความเสียหายของทรัพย์สินที่มีส่วนประกอบของไม้ หากพบการระบาดหนักและสิ่งของดังกล่าวมีความชื้นสูง

Pharaoh’s Ant

มดดำบ้าน
(The longhorn crazy ant)

ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Paratrechina longicornis 

ลักษณะทางกายภาพ

  • มีสีน้ำตาลเข้ม
  • ขนาดยาว 2.5 – 3.3 มม.
  • มีหนวดที่มี 12 ปล้องและปลายหนวด ไม่ได้ขยายขนาด เรียบเสมอกัน

วงจรชีวิต

  • มีมดราชินีหลายตัวในหนึ่งอาณาจักร
  • ในอาณาจักรมีประชากรจำนวนมาก
  • ช่วงเย็นในวันที่อากาศชื้นและอบอุ่น มดตัวผู้จำนวนมากจะออกมารวมตัวกันอยู่นอกรังอย่างหนาแน่น

เกี่ยวกับมดน้ำผึ้ง

  • ที่อยู่อาศัย: ทำรังในสถานที่หลายรูปแบบทั้งในที่แห้งและที่ชื้น เช่น บริเวณกองขยะ โพรงไม้ ซากไม้ที่ตายแล้ว ในบางครั้งอาจพบการระบาดในรังมดชนิดอื่น เนื่องจากสามารถรุกรานที่อยู่อาศัยและเอาชนะมดสายพันธุ์อื่นได้

  • แหล่งอาหาร: กินทั้งพืช สัตว์ เมล็ดพืช สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่ตายแล้ว สารคัดหลั่งจากพืช ผลไม้ เพลี้ยแป้ง และเศษขยะจากครัวเรือน

  • ผลกระทบและอันตราย: มดสายพันธุ์นี้มีความแข็งแกร่งมาก เมื่อถูกคุกคามจะเคลื่อนตัวได้ไว พวกมันสามารถนำพาเชื้อโรคมาสู่คนได้ ในเชิงการเกษตรพวกมันถือเป็นศัตรูพืช เนื่องจากมีส่วนช่วยแมลงศัตรูพืช (เพลี้ยแป้ง) ในการเข้าทำลายพืช

สำรวจปลวกฟรี

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมด

คุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับมดใช่หรือไม่? หาคำตอบได้ที่นี่